รู้จัก “เมืองเบิร์น” (Bern) Unseen Switzerland เมืองที่ไม่เคยถูกลืม

หากพูดถึงประเทศที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลก สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) จะต้องติด 1 ใน 3 ของประเทศที่ทุกคนนึกถึง...เมืองที่ห้อมล้อมไปด้วยหุบเขาหิมะ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม ตึกรามบ้านช่องที่ยังคงสภาพความเป็นเมืองเก่าที่ไม่ได้รับบาดแผลหรือผลกระทบจากสงคราม

หากพูดถึงประเทศที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลก สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) จะต้องติด 1 ใน 3 ที่ทุกคนนึกถึง…ภาพในห้วงความคิดคือเมืองที่ห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาหิมะ ความสวยงามของทุ่งดอกไม้ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม และเมื่อถามถึงเมืองท่องเที่ยวที่หลายคนรู้จักคงหนีไม่พ้นสถานที่ทัวร์นิยม ลูเซิร์น (Luzern)

• • • กลับสู่หน้าหลัก • • •

ภาพการโฆษณาที่บริษัททัวร์นิยมใช้มักเป็นภาพของ Kapellbrücke สะพานไม้และหอคอยกลางน้ำอันเป็นจุดเด่นและถือเป็นแลนด์มาร์คของเมืองแห่งนี้ กอปรกับลูเซิร์นเป็นเมืองที่มีแหล่งละลายทรัพย์ทำให้บริษัททัวร์จากทั่วโลกนิยมพาลูกทัวร์มาลงทำให้หลายคนรู้จักเมืองลูเซิร์นมากกว่าเมืองหลวงที่แท้จริงของสวิตเซอร์แลนด์

เมืองหลวงที่ถูกลืม เป็นคำที่หลายคนนิยามเมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ เพราะประเทศอันสวยงามและมีชื่อเสียงด้านสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติกลับมีเมืองหลวงที่ขาดจุดเด่นนั้นไป นักท่องเที่ยวบางกลุ่มเลือกเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้โดยไม่พึ่งพากรุ๊ปทัวร์ ต้นฉบับของการเดินทางถูกบอกต่อผ่านโซเชียลมีเดียด้วยคำที่คุ้นหูว่า “เมืองหลวงที่ถูกลืม” บันทึกเป็นเรื่องราวเหล่านั้นทำให้เมืองที่ถูกลืมกลับมีชื่อเสียงอีกครั้ง

Bern หรือ กรุงเบิร์น เมืองหลวงที่ถูกลืมของสวิตเซอร์แลนด์ จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่แสวงหาเมืองเก่าแห่งยุโรป ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเขตเมืองเก่าที่ผ่านสงครามโลกมาทั้งสองครั้งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) และสถาบัน ECA International ยังจัดอันดับให้เบิร์นเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในยุโรปคู่กับกรุงโคเปนเฮเกนในปี ค.ศ. 2019 – 2020 อีกด้วย

ประวัติของเมืองหลวงที่ถูกลืมเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย จากเมืองหลวงที่ถูกลืมอันเงียบสงบกลับกลายเป็นเมืองหลวงที่ไม่เคยถูกลืม เพราะความสวยงามของเมืองเก่าที่หลายคนพบเห็นยิ่งทำให้กรุงเบิร์นกลายเป็นหมุดหมายแห่งใหม่ที่บริษัททัวร์ต้องเพิ่มเมืองแห่งนี้ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในสวิตเซอร์แลนด์

Bär Graben

ภาพจำที่หลายคนมักเห็นผ่านสื่อต่าง ๆ เมื่อไปเยือนเมืองหลวงที่ไม่เคยถูกลืมหนีไม่พ้นกับ บ่อหมี (Bär Graben) ที่อยู่คู่เมืองมาแต่เริ่ม (Bern พ้องมาจาก Bär ในภาษาเยอรมันที่แปลว่าหมี) ด้วยความที่เจ้าเมืองในอดีตประกาศว่าจะตั้งชื่อเมืองตามชื่อสัตว์สายพันธุ์แรกที่เจอ “หมี” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองไปโดยปริยาย

นอกจากบ่อหมีแล้ว กรุงเบิร์นยังมีจุดน่าสนใจอยู่หลายแห่ง รวมถึงจุด Unseen ที่หลายคนไม่คาดคิดซ่อนอยู่ โดยเฉพาะในเขตเมืองเก่าที่มีมนต์เสน่ห์แห่งอดีตสะท้อนผ่านอิฐของตัวอาคาร พื้นถนน และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่ข้ามกาลเวลามาสู่ปัจจุบัน

Bundeshaus

Unseen สถานที่แรกอยู่ที่ อาคารรัฐสภาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (Bundeshaus) เพราะอาคารแห่งนี้เป็นที่ทำการระดับประเทศ แต่กลับเปิดให้ผู้คนสามารถเดินเข้าไปในบริเวณโดยรอบได้ รวมถึงมีม้านั่งและจุดพักผ่อนให้กับผู้คนที่เข้ามาได้ผ่อนคลาย เปรียบเสมือนสวนสาธารณะขนาดย่อมที่หลายคนไม่คาดคิด เพราะอาคารแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินสูงทำให้สามารถมองเห็นวิวของเมืองเก่าได้อย่างชัดเจน จึงถือเป็นสถานที่ Unseen ที่อาจจะไม่อยู่ในลิสต์ทัวร์นิยม 

ด้านหน้าของอาคารรัฐสภาฯ เป็นจัตุรัสกว้างและลานน้ำพุที่เรียกว่า Bundesplatz อีกฟากฝั่งเป็น ที่ทำการธนาคารแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (Schweizerische Nationalbank) เป็นอีกจุดที่มีสวยงามและมีความสำคัญ เพราะนอกจากลานน้ำพุแล้วในวันหยุดจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นตลาดดอกไม้ที่กลางลานจตุรัส จึงทำให้ลานแห่งนี้กลายเป็นอีกจุดที่หลายคนควรแวะเวียนมาบันทึกการเดินทางก่อนจะเดินทางไปยังจุดหมายถัดไป

Käfigturm

เดินเข้ามายังส่วนเมืองเก่าถัดจากถนนเส้นหลักควรเริ่มต้นที่ Prison Tower หรือในภาษาเยอรมันเรียกว่า Käfigturm ในอดีตใช้สำหรับคุมขังอาชญากร แต่ในปัจจุบันเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และถูกขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมกับองค์การยูเนสโก (UNESCO) อีกด้วย

Käfigturm ขึ้นชื่อว่าเป็นอนุสาวรีย์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองหลวงแห่งนี้ เพราะประวัติการก่อสร้างที่ยาวนานและการบูรณาการหลายต่อหลายครั้ง การเป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง รวมถึงใช้เป็นจุดรวมพลกรณีมีเหตุการด่วน ในปัจจุบันทางเดินลอดหอหอยมีรางสำหรับรถรางให้ผ่านด้านล่าง เกิดเป็นอีกภาพที่สวยงาม ผสานอาคารในอดีตและเทคโนโลยีในปัจจุบันเข้าด้วยกันถือเป็นจุดที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนกรุงเบิร์น

Zytglogge

นอกจากประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน Käfigturm ยังมีนาฬิกาดาราศาสตร์ Zytglogge เป็นจุดเด่น เพราะทุก ๆ ต้นชั่วโมงจะมีการแสดงเต้นระบำโดยตุ๊กตาที่อยู่ด้านข้าง ทำให้มีนักท่องเที่ยวนิยมมายืนรอรับชมโชว์น่ารัก ๆ นี้ โดยนาฬิกาจะเริ่มเต้นระบำเป็นวงกลม 4 นาทีก่อนถึงชั่วโมงถัดไป ใครที่อยากเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวสามารถ คลิก เพื่อชมคลิปได้เลย

Kindlifressenbrunnen

ตรอกด้านข้างบริเวณใกล้ ๆ กับ Käfigturm จะพบกับจุด Unseen ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองแห่งนี้คือ Kindlifressenbrunnen หรือน้ำพุยักษ์กินเด็ก เมืองแห่งนี้มีน้ำพุสาธารณะกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ แต่ในจุดนี้มีรูปปั้นที่โด่งดังประดับอยู่ทำให้กลายเป็นอีกจุดพิเศษที่ผู้คนแวะเวียนกันมาถ่ายภาพ

รูปปั้นบนยอดน้ำพุแห่งนี้แรกเริ่มมีชื่อว่า Platzbrunnen แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น Kindlifressen ที่แปลว่า ตัวกินเด็ก สื่อถึงยักษ์ที่อยู่ปลายยอดของน้ำพุที่กำลังจับเด็กกิน เพื่อต้องการให้เด็กรู้ว่าหากไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่จะมียักษ์มาจับไปกิน คล้ายกับในนิทานหลอกเด็กนั่นเอง

Einstein-Haus

กลับมาบนถนนเส้นเดียวกับ Käfigturm มีบ้านพักชั่วคราวของนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลก อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หรือที่เรียกว่า Einstein-Haus เคยเป็นสถานที่พักพิงในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ (1903-1905) และในปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานที่นักท่องเที่ยวหลายคนเดินทางมาเพื่อเข้าชม เพราะสถานที่มีภาพถ่ายและผลงานบางส่วนของเขา โดยค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 6 ฟรังก์ (CHF.) ประมาณ 180 บาท สามารถตรวจสอบตารางวันเวลาเปิดเข้าชมได้ที่ einstein-bern.ch

Berner Münster

เดินต่อไปบนถนนเดียวกันจะเจอเข้ากับมหาวิหารแห่งกรุงเบิร์น (Münster St. Vinzenz หรือ Berner Münster) ถือเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีความสำคัญที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ โดยสถานที่แห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและขึ้นไปยังระเบียงของหอคอยได้ โดยมีค่าเข้าอยู่ที่  5 ฟรังก์ (CHF.) ประมาณ 150 บาท

โบสถ์แห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างแค่ตัวโบสถ์ถึง 150 ปี และได้ถูกต่อเติมให้มีหอคอยอันเป็นจุดชมวิวแห่งกรุงเบิร์น โดยมีบันไดวนทั้งสิ้น 285 ขั้น เรียกได้ว่า เดินวนไปจนเวียนหัวเลยทีเดียว สำหรับทางขึ้นหอคอยจะเป็นลักษณะทางเดินที่แคบและชัน ทำให้การขึ้นไปชมค่อนข้างจะลำบากและใช้เวลานาน 

แม้ว่าการเดินขึ้นมาจะค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อได้มาเห็นวิวที่มองจากระเบียงหอคอยแล้วถือว่าคุ้มค่า เพราะวิวจากหอคอยเปรียบเสมือนภาพสะท้อนอีกมุมที่มองไปยังอาคารรัฐสภาฯ และสามารถเดินวนได้ 360 องศา แต่สำหรับระเบียงบนหอคอยแห่งนี้มีความกว้างเพียงพอสำหรับหนึ่งคนยืน ทำให้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวความสูงเพราะจะต้องยืนชิดกับขอบระเบียงที่มีความสูงมาก ๆ เตือนแล้วนะ!!!

นอกเหนือจากสถานที่ข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายจุดที่คู่ควรแก่การไปเช็คอิน เพราะคุณค่าทางวัฒนธรรมไม่ใช่สิ่งที่สร้างขึ้นได้ การรักษาเมืองที่มีมาแต่โบราณให้อยู่เป็นเอกลักษณ์ทำให้กรุงเบิร์นเป็นเมืองหลวงที่คู่ควรแก่การรักษา หากท่านใดได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อย่าลืมตั้งให้กรุงเบิร์นเป็นเป้าหมายหลักของคุณด้วยนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าเมืองที่ไม่เคยถูกลืมนั้นมีกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์ครุกกรุ่นและเรียกร้องให้ผู้คนศึกษาอยู่

• • • กลับสู่หน้าหลัก • • •

เรื่องโดย ปรภ ไม่ใช่ รปภ

Leave a Reply

%d bloggers like this: