วิ่งเชียงของ เชื่อมสัมพันธ์ไมตรีไทย – ลาว

ในช่วงเวลานับจากปี 2555 เป็นต้นมา ประชาชนไทยมีกิจกรรมทางกายด้วยการวิ่งเพิ่มขึ้นจาก 5 ล้านคน สู่ 12 ล้านคน ซึ่งทำให้วงการวิ่งคึกคักเป็นอย่างมาก และยังชักชวนประชาชนให้มีสุขภาพที่แข็งแรง “งานวิ่ง ณ เชียงของ ๒ ฝั่งโขง Mini-Half Marathon Run for Friendship” นับเป็นอีกงานที่ส่งเสริมกิจกรรมทางกายของชาวไทย และเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่างไทย – ลาว อีกด้วย

ในช่วงเวลานับจากปี 2555 เป็นต้นมา ประชาชนไทยมีกิจกรรมทางกายด้วยการวิ่งเพิ่มขึ้นจาก 5 ล้านคน สู่ 12 ล้านคน ซึ่งทำให้วงการวิ่งคึกคักเป็นอย่างมาก และยังชักชวนประชาชนให้มีสุขภาพที่แข็งแรง “งานวิ่ง ณ เชียงของ ๒ ฝั่งโขง Mini-Half Marathon Run for Friendship” นับเป็นอีกงานที่ส่งเสริมกิจกรรมทางกายของชาวไทย และเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่างไทย – ลาว อีกด้วย

• • • กลับสู่หน้าหลัก • • •

“ในปี 2560 คนไทยมีกิจกรรมทางกายร้อยละ 72.9 เมื่อเทียบกับปี 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6” ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวถึงข้อมูลถึงจำนวนของคนไทยที่มีกิจกรรมทางกาย ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพด้วยการวิ่ง โดยในแต่ละปี สสส. ได้สนับสนุนงานวิ่งกว่า 200 โครงการ นอกจากงานวิ่งที่มีจำนวนมากแล้ว อยากเห็นงานวิ่งที่ได้มาตรฐานทั้งด้านความปลอดภัย ระบบการดูแลนักวิ่งที่ดี และสร้างความประทับใจให้กับงานวิ่ง ซึ่งงานวิ่งที่เชียงของเป็นงานที่มีจุดขายทั้งด้านธรรมชาติอันสวยงาม การมีส่วนร่วมของชุมชน และเป็นเส้นทางที่เชื่อมไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงถือเป็นอีกหนึ่งงานต้นแบบที่ทุกคนจะมีความสุขและได้สุขภาพที่ดีกลับไป  

ทางด้านนายทนงศักดิ์ ศุภทรัพย์ ผู้จัดโครงการ งานวิ่ง ณ เชียงของ ๒ ฝั่งโขง Mini-Half Marathon Run for Friendship กล่าวถึงจุดเด่นของงานวิ่งในครั้งนี้ว่า เป็นครั้งแรกที่มีจุดเริ่มต้นจากประเทศไทย วิ่งข้ามไปในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนักวิ่งจะได้สัมผัสบรรยากาศความสวยงามของกลางสะพานข้ามแม่น้ำโขง สูดอากาศอันบริสุทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติ และนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการวิ่งเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีแบบนี้

“งานนี้จัดขึ้นโดยไม่หวังกำไร เพราะกำไรของเราคือความสุขของทุกคนที่ได้มาวิ่ง” พระอาจารย์เอกชัย สิริญาโณ เจ้าอาวาสวัดใหม่ศรีร่มเย็น อ.เชียงของ จ.เชียงราย และประธานที่ปรึกษาโครงการ งานวิ่ง ณ เชียงของ ๒ ฝั่งโขง กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า ได้นำประสบการณ์จากผู้ที่เคยจัดงานวิ่งมาพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อให้ผู้ที่เข้าร่วมงานประทับใจ นำไปบอกต่อและกลับมาอีกครั้งในปีถัดไป นอกจากนี้ทาง สปป.ลาว ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อโชว์ศักยภาพทางการท่องเที่ยวด้วยการทำความสะอาดถนนและตกแต่งประดับด้วยธงสองข้างทางเพื่อต้อนรับนักวิ่งจากไทยอีกด้วย

“งานวิ่ง ณ เชียงของ 2 ฝั่งโขง เชื่อมโยงไทย-ลาว ถือเป็นงานวิ่งที่มีมนต์ขลังและมีเสน่ห์” อาจารย์สถาวร จันทร์ผ่องศรี หรือครูดิน อดีตนักวิ่งทีมชาติไทย กล่าวถึงงานวิ่งครั้งนี้ว่า ทุกงานวิ่งจะมีจุดสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญ ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมเกิดความประทับใจ ซึ่งงานในครั้งนี้มีพระอาจารย์เอกชัยเป็นผู้จัด จึงทำให้เป็นงานวิ่งที่มีมนต์ขลัง และเอกลักษณ์ที่สร้างความประทับใจให้แก่นักวิ่งของไทย นอกจากนี้ยังเป็นงานวิ่งที่เชื่อมโยงกับฝั่งลาว จึงอยากให้นักวิ่งมาร่วมสัมผัสความประทับใจครั้งแรกร่วมกัน

• • • กลับสู่หน้าหลัก • • •

เรื่องโดย ปรภ ไม่ใช่ รปภ

Leave a Reply

%d bloggers like this: