อยู่อย่างเข้าใจกับอาการซึมเศร้า

ในยุคที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยอาการซึมเศร้าอยู่มากมาย แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่อยู่ในอาการเศร้า และคิดไปเองว่าป่วยด้วยโรคซึมเศร้า และกลายเป็นการเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างแทน จนผู้ที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าถูกมองเหมารวมไปหมด ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนเข้าใจกับผู้ที่อยู่กับอาการซึมเศร้าที่แท้จริง

ในยุคที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยอาการซึมเศร้าอยู่มากมาย แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่อยู่ในอาการเศร้า และคิดไปเองว่าป่วยด้วยโรคซึมเศร้า และกลายเป็นการเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างแทน จนผู้ที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าถูกมองเหมารวมไปหมด ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนเข้าใจกับผู้ที่อยู่กับอาการซึมเศร้าที่แท้จริง

โรคซึมเศร้า ถือเป็นภัยเงียบด้านสุขภาพ เกิดจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งเกิดขึ้นได้กับทุกอาชีพ ทุกวัย ปรภ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ที่มีอาการซึมเศร้าและพบแพทย์เป็นประจำ

• • • กลับสู่หน้าหลัก • • •
A man portrait in the dark with Silhouette
Portrait in the dark

ผู้ที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก ทั้งในด้านอารมณ์ ความรู้สึก พฤติกรรม รวมไปถึงอาการทางร่างกายต่างอื่นๆ เช่น นอนไม่หลับ กินน้อยหรือมากจนเกินไป เป็นต้น นอกจากนี้จากคนที่ชอบพูด ชอบคุย ชอบออกไปไหนมากไหนกับเพื่อน ดูหนัง ฟังเพลง ทุกอย่างจะค่อยๆ เปลี่ยน หรือกับบางคนอาจจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อเปลี่ยนแล้วก็เรียกได้ว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยสิ้นเชิง อาการเหล่านี้หากรู้ตัวเองก็ต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อปรับวิธีคิดและอยู่อย่างเข้าใจกับอาการซึมเศร้าของตัวเอง แต่หากคนสนิทมีอาการดังกล่าวไม่อยากให้นิ่งนอนใจ เพราะเขาอาจกำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ก็ได้

อยากให้ทุกคนที่อ่านบทความนี้ใช้ชีวิตอยู่อย่างเข้าใจกับอาการซึมเศร้าของตัวเอง อย่ามองคนอื่นหรือนำคนอื่นมาเปรียบเทียบ เพราะแต่ละคนมีอาการที่แตกต่างกัน รวมไปถึงการรักษาที่จะต้องวินิจฉัยโดยแพทย์เท่านั้น

silhouette of man
Shadow man

อาการที่สังเกตผู้เป็นโรคซึมเศร้า

  • มีอารมณ์เศร้า หดหู่ ท้อแท้ ซึม หงอย ทั้งที่ตัวเองรู้สึกหรือคนอื่นก็สังเกตเห็น
  • เบื่อ ไม่อยากทำอะไร หรือทำอะไรก็ไม่สนุกเพลิดเพลินเหมือนเดิม
  • เบื่ออาหาร หรือกินมากเกินไป
  • หลับยาก หลับ ๆ ตื่น ๆ หรือนอนหลับมากไป
  • คิดช้าพูดช้า ทำอะไรช้าลง สมาธิความคิดอ่านช้าลง
  • หงุดหงิด กระวนกระวาย
  • รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • รู้สึกตนเองไร้ค่า
  • คิดไม่อยากมีชีวิตอยู่ หรืออยากทำร้ายตนเอง
    …เป็นต้น

“…ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีรายละเอียดและวิธีรักษาที่แตกต่างกัน แต่จะมีจุดร่วมที่สามารถทำความเข้าใจและช่วยให้บุคคลรอบข้างมีวิธีปฏิบัติเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังใจดีขึ้น…”

Man sitting on Sofa
Man sitting on Sofa

นพ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล อดีตนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมสุขภาพจิตบอกถึงวิธีปฏิบัติสำหรับผู้เป็นโรคซึมเศร้าในระดับต่าง ๆ ดังนี้

ระดับต่างๆ ของโรคซึมเศร้า

  • อาการซึมเศร้าเล็กน้อย ควรเน้นการปรับกิจวัตร หากมีอาการเศร้าเรื้อรังที่เป็นมานาน มักเกิดจากนิสัยขี้กังวลและการขาดทักษะจัดการอารมณ์และจัดการสถานการณ์ชีวิต ควรฝึกทักษะจัดการปัญหาเชิงรุก ทักษะจัดการอารมณ์ การสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี สร้างความรู้สึกดีและความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง
  • อาการซึมเศร้ามีปานกลาง ยาและการปรับกิจวัตรจะช่วยได้มาก โดยเฉพาะการกินอาหารที่ดีกับสุขภาพ การนอนเพียงพอ การออกกำลังกายให้มากพอ และการทำกิจกรรมผ่อนคลาย ถ้าเป็นไปได้ควรฝึกการมีสติรู้ทันความคิดนึกประยุกต์ใช้สติเพื่อการดูแลเรื่องอารมณ์ของตัวเองระวังการมองอารมณ์ลบว่าเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธหรืออารมณ์เศร้า เพราะอารมณ์เป็นธรรมดาของชีวิตคนเรา สิ่งสำคัญคืออารมณ์บอกอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในใจเรา
  • อาการซึมเศร้ามาก ควรเน้นให้กินยาสม่ำเสมอ และให้กำลังใจว่าอาการจะดีขึ้น หากเป็นไปได้ ควรเดินออกกำลังกายเบา ๆ ช่วงแสงแดดอ่อน ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เท่าที่พร้อมจะทำ
Man in red shadow
Shadow man

หากคนรู้จักอยากฆ่าตัวตาย

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความคิดฆ่าตัวตายไม่ควรละเลยและคิดไปเองว่า คนที่พูดถึงความคิดฆ่าตัวตายเป็นการเรียกร้องความสนใจ คงไม่ลงมือทำจริง แต่!

“…การบอกถึงความคิดฆ่าตัวตาย สะท้อนถึงสิ่งที่อยู่ในใจ ที่ทำให้เขาสิ้นหวังกับการมีชีวิต…”

เป็นสัญญาณเตือนให้รีบขอความช่วยเหลือ ควรให้จิตแพทย์หรือคนทำงานด้านสุขภาพจิตได้ช่วยประเมินความเสี่ยงและร่วมกันกำหนดแนวทางช่วยเหลือ

อย่าละเลยคนที่บอกว่าจะฆ่าตัวตาย หรือโพสต์สถานะหมดกำลังใจบนโซเชียลมีเดีย เพราะนั่นอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณอาจจะได้ข่าวของเขา

a man cry
a man cry

โรคซึมเศร้าสามารถรักษาให้หายได้ แต่ขั้นแรกจะต้องเริ่มจากความเข้าใจในโรคนี้ก่อน ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวผู้ป่วยเองแต่ยังรวมถึงคนรอบข้างด้วย โดยเฉพาะคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากที่สุด จะช่วยได้มากด้วยการให้ความเข้าใจและใส่ใจอย่างถูกวิธี โรคซึมเศร้าอาจรุนแรงจนถึงระดับที่นอกจากจะกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ยังอาจร้ายแรงถึงขั้นเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยตัดสินใจจบชีวิตตัวเองได้

ทั้งนี้คนทั่วไปมักจะคิดว่าตนเข้าใจโรคซึมเศร้า เพราะเคยรู้สึก ‘เศร้าใจ’ เป็นบางช่วงเวลา หรือเคยมีบางสิ่งบางอย่างทำให้เขารู้สึกเสียใจมาบ้างและสามารถรับมือได้ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่

กรณีผู้ป่วยซึมเศร้าเขาอาจไม่มีพลังและความเชื่อมั่นว่าตัวเองจะดีขึ้นได้ ไม่มีแรงไปออกกำลังกาย ไม่อยากทำอะไร วิธีปฏิบัติตัวต่อกันจึงควรเป็นไปด้วยความเข้าใจในธรรมชาติของโรค อย่าเพิ่งตัดสินว่า การที่เขาไม่ทำ หรือทำไม่ได้ แปลว่า เขาขี้เกียจ ไม่มีวินัย ไม่ยอมช่วยเหลือตัวเอง หรือเรียกร้องความสนใจ ความคิดเช่นนี้กลับจะยิ่งทำให้เราปฏิบัติต่อเขาในแบบตัดสิน วิพากษ์วิจารณ์ บังคับ และทำให้อาการแย่ลงได้

picture of two man on Silhouette
two man

วิธีปฏิบัติตัวต่อผู้ป่วยซึมเศร้า คือ ให้กำลังใจ ชวนทำกิจกรรมร่วมกัน พูดคุยแบบรับฟัง ไม่ตัดสิน ไม่ต้องพยายามให้คำตอบว่าควรทำอย่างไร ในกรณีของสมาชิกในครอบครัว ถ้าไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร ก็ให้ใช้การสัมผัสและการแสดงความรักความห่วงใยผ่านการกระทำ เช่น จัดเวลาทำกิจกรรมที่ชอบร่วมกัน

ตัวอย่างคำพูดให้กำลังใจที่ดี

  • อยากให้ฉันกอดไหม
  • เธอไม่ได้อยู่คนเดียวนะ
  • เธอสำคัญสำหรับเสมอนะ
  • ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอนะ
  • ฉันอาจไม่เข้าใจ แต่เข้าใจเธอนะ
  • ฉันรักเธอนะ

คำพูดที่ควรเลี่ยงในการให้กำลังใจ

  • ลืมๆ มันไปซะเถอะ
  • ไม่อยากรู้สึกแบบนี้ก็เลิกคิดสิ
  • ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวก็ผ่านไป
  • จะเศร้าไปถึงไหนกัน
  • เข้าใจว่ารู้สึกอย่างไรฉันก็เคยเป็น
  • เลิกเศร้าได้แล้ว

อย่าลืมว่าคำบางคำฟังแล้วมีกำลังใจได้ความรู้สึกที่ดี แต่คำอีกหลายๆ คำก็สามารถทิ่มแทงจิตใจให้น้ำตาตกได้เช่นกัน

สำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าคำพูดที่ควรหลีกเลี่ยง คือ คำพูดในทางตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์ คำพูดกระตุ้นให้กำลังใจที่เน้นให้คิดบวกว่าต้องทำได้สิ ๆ เพราะกลับจะยิ่งกระตุ้นให้เขารู้สึกล้มเหลวมากยิ่งขึ้น

Man leaning on counter
a man

สรุป

นอกเหนือจากการกินยาเป็นประจำแล้ว การอยู่อย่างเข้าใจกับอาการซึมเศร้าของตัวเอง การปรับกิจวัตรประจำวันโดยเพิ่มกิจกรรมทางกายเข้าไปจะช่วยให้อาการของแต่ละคนดีขึ้น ทั้งนี้ขอแนะนำให้ผู้ที่มีอาการซึมเศร้าปรึกษาแพทย์ หรือจิตแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านทั่วประเทศ อย่าลืมสำรวจความรู้สึกของคนรอบข้างของคุณให้ดี และอย่าลืมว่า การเป็นโรคซึมเศร้าไม่ใช่โรคที่น่ากลัวหรือต้องการความสงสาร แค่ต้องการความเข้าใจเท่านั้นก็พอ

• • • กลับสู่หน้าหลัก • • •

เรื่องโดย ปรภ ไม่ใช่ รปภ

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ให้สัมภาษณ์โดยนพ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล อดีตนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมสุขภาพจิต
ข้อมูลบางส่วนจากมูลนิธิหมอชาวบ้าน และสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์

บทความน่าอ่านต่อ

5 Comments

Leave a Reply

%d bloggers like this: