หลอดเลือดสมอง โรคนี้ไม่มีเตือน

ความร้ายกาจของโรคที่คร่าชีวิต มักจะมาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke เป็นอีกหนึ่งโรคที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้า แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ

ความร้ายกาจของโรคที่คร่าชีวิต มักจะมาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว โรคหลอดเลือดสมอง หรือ STROKE เป็นอีกหนึ่งโรคที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้า แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ

A man portrait in the dark with Silhouette
Portrait in the dark

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ STROKE แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

  1. ภาวะหลอดเลือดสมองตีบตัน (Ischemic STROKE) 
    มีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพของหลอดเลือดจากการสะสมของคราบไขมัน หินปูน ที่ผนังหลอดเลือดชั้นในจนหนา นูน แข็ง ขาดความยืดหยุ่น ทำให้หลอดเลือดค่อย ๆ ตีบแคบ พบได้ประมาณ 70–85% 
  2. ภาวะหลอดเลือดสมองแตก หรือภาวะเลือดออกในสมอง (Hemorrhagic STROKE) 
    ทำให้มีเลือดออกมาอยู่ในเนื้อสมอง หรือเยื่อหุ้มสมอง เซลล์สมองได้รับบาดเจ็บและทำให้เนื้อสมองตาย มักพบในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง หลอดเลือดเปราะและโป่งพอง พบได้ประมาณ 15–30% 
  3. ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (Transient ischemic attack) 
    คล้ายโรคสมองขาดเลือด แต่มีอาการชั่วคราวไม่เกิน 24 ชั่วโมง เป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องพบแพทย์เพราะเสี่ยงที่จะเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต พบได้ประมาณ 15% อย่างไรก็ตามโรคนี้สามารถป้องกันได้โดยหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกาย และคอยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงอยู่เสมอ
Man sitting on Sofa
Man sitting on Sofa

อาการของโรคหลอดเลือดสมองในแต่ละคนจะแสดงออกมาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของสมองที่เกิดการผิดปกติ โดยสามารถสังเกตได้จาก  10 สัญญาณเตือน ที่หากคนใกล้ตัวมีอาการดังกล่าวควรรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจวินิจฉัยในทันที

10 สัญญาณเตือน โรคหลอดเลือดสมอง

  1. อาการอ่อนแรงของร่างกายครึ่งซีก
  2. อาการชาครึ่งซีก
  3. สูญเสียการทรงตัว
  4. มองไม่เห็นภาพครึ่งหนึ่งของลานสายตา
  5. ตามองไม่เห็นข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
  6. มองเห็นภาพซ้อนเป็น 2 ภาพ
  7. พูดไม่ชัด กลืนลำบาก ปากเบี้ยว ลิ้นแข็ง
  8. มีความผิดปกติของการใช้ภาษา พูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่องหรือฟังไม่เข้าใจ พูดไม่ออก นึกคำไม่ได้ ใช้ภาษาผิด คำนวณไม่ได้
  9. มีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน
  10. ปวดศีรษะรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ความน่ากลัวของโรคนี้ คือ เป็นโรคที่ไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า หากมีอาการที่กล่าวมาข้างต้นให้รีบพาไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและให้การรักษา กรณีที่เป็นหลอดเลือดสมองตีบ จะทำการรักษาโดยฉีดยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งจะมีผลในการรักษาอย่างมากหากมาพบแพทย์ภายในเวลาไม่เกิน 3 ชม.หลังจากมีอาการ ส่วนกรณีหลอดเลือดสมองแตกจะทำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด

ภาพประกอบจากเว็บไซต์ Thaihealth

โรคหลอดเลือดสมองมีโอกาสเกิดขึ้นซ้ำ หากขาดการป้องกันและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค การเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเพื่อดูแลสุขภาพร่างกายและป้องกันการเป็นซ้ำจึงควรทำดังนี้

การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

  1. เลิกสูบบุหรี่
  2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
  3. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดี
  4. ลดการรับประทานอาหารรสเค็ม
  5. รับประทานผักและผลไม้ทุกวัน
  6. เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว
  7. ตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ
  8. ควบคุมระดับไขมันและน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

สำหรับผู้ที่เคยเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง จะต้องรับประทานยาป้องกันตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากโรคนี้สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้หากขาดการป้องกันที่ดี ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรค

สรุป

สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักคือ “จะทำอย่างไรให้คนรอบข้างหรือผู้ที่มีอาการรู้ว่า หากมีอาการหน้าเบี้ยว แขนขาชา หรืออ่อนแรง พูดไม่ชัด นี่คือสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง และต้องพาผู้ป่วยไปถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด” เพื่อทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิต และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ

• • • กลับสู่หน้าหลัก • • •

เรื่องโดย ปรภ ไม่ใช่ รปภ

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ให้สัมภาษณ์โดยนพ.บรรลุ ศิริพานิช ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย
ข้อมูลบางส่วนจาก หนังสืออาหารสำหรับโรคหลอดเลือดสมอง

2 Comments

Leave a Reply

%d bloggers like this: